สี่แยกเทพเจ้า

สี่แยกเทพเจ้า

"องค์พระตรีมูรติ" เทพประทานพรในเรื่องของความรัก

          จุดแรกที่เราจะพาไปคือ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นที่ประดิษฐานของเทพ 2 องค์ด้วยกัน คือ "องค์พระตรีมูรติ" และ "องค์พระพิฆเนศวร" แต่จะขอกล่าวถึง "องค์พระตรีมูรติ" ก่อน ซึ่ง "องค์พระตรีมูรติ" นั้น เป็นเทพในศาสนาฮินดู โดยคนส่วนใหญ่เชื่อว่าองค์พระตรีมูรติจะประทานพรในเรื่องของความรัก ทำให้มีคู่รักหลายคู่ จูงมือกันมาไหว้ขอพร เพื่อให้ความรักครั้งนี้ยืนยาว และราบรื่น

          ตามตำนานกล่าวกันว่าองค์พระตรีมูรติเป็นเทพที่รวม 3 เทพไว้ด้วยกันในรูปเดียว ได้แก่ พระพรหม พระผู้สร้าง พระวิษณุ พระผู้รักษา และพระศิวะ พระผู้ทำลาย เทพที่รวมพลัง 3 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่รวมกันไว้ในรูปเดียว ทำให้พระตรีมูรติเป็นการแสดงออกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้าในทุกสิ่ง เป็นเสมือนเทพเจ้าที่มีอำนาจสูงสุด

          ในการไหว้ "องค์พระตรีมูรติ" ต้องใช้ธูปแดง 9 ดอก เทียนแดง 2 เล่ม ดอกกุหลาบ 9 ดอก ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวไปนั้น สามารถหาซื้อได้ด้านหน้าห้าง แต่ก่อนที่จะไหว้ "องค์พระตรีมูรติ" เราต้องไหว้ "องค์พระพิฆเนศวร" ก่อน

"องค์พระพิฆเนศวร" เทพแห่งศิลปะวิทยาการและความสำเร็จ

          หลายคนคงทราบเรื่องราวเกี่ยวกับ "องค์พระพิฆเนศวร" มาบ้างแล้ว ซึ่ง "องค์พระพิฆเนศวร" เป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ นับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง ทั้งนี้คนไทยเองได้ยกให้ "องค์พระพิฆเนศวร" เป็นเทพแห่งศิลปะทั้งมวล ซึ่งทางศาสนาพราหมณ์ได้สถาปนาพระพิฆเนศวร เป็นเทพพระองค์แรกที่ต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใดๆ เพื่อเป็นการคารวะในฐานะบรมครูผู้ประสาทปัญญาและความสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป กิจการทุกอย่างจึงสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี

          จากนั้น เราก็จะข้ามฝั่งไปยังห้างสรรพสินค้า "เกษรพลาซ่า" เพื่อไหว้ "พระลักษมี" ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณดาดฟ้า ชั้น 4 ของห้าง

"พระลักษมี" เทพธิดาแห่งความมั่งคั่ง และเทพีแห่งความดีงาม

          "พระลักษมี" ถือเป็นเทวนารีที่ทรงพระศิริโฉมมากที่สุดในกระบวนเทวนารีด้วยกัน ทรงเป็นเทวีแห่งโชค ที่กล่าวกันว่าทรงอำนาจวิเศษ ดังจารึก Junagdh Inscription ของ Skandagupta กษัตริย์ตอนปลายของราชวงศ์คุปตะได้กล่าวถึงอำนาจของ "พระลักษมี" ไว้ว่า ด้วยอำนาจแห่งเทวีลักษมีนี่เองที่ทรงส่งเสริมอำนาจเทพสวามีคือพระนารายณ์จนได้ชื่อว่า เทพเจ้าผู้บริหารโลก

          ดังนั้น คนส่วนใหญ่ที่ทำการบูชา "พระลักษมี" นั้นมักมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ขอพรจากคุณสมบัติที่พระนางมี นั่นคือ ศิริ-ความดีงามและความมั่งคั่งร่ำรวย

          ในส่วนของการไหว้นั้น นอกจากธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ และ ดอกบัว 3 ดอก ต้องนำของที่ต้องการไหว้มาเอง เพราะบริเวณนี้ไม่มีร้านค้าจำหน่ายของไหว้เหมือนบริเวณอื่น ๆ จากนั้นเราก็จะเดินไปต่อกันที่ด้านหน้าโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล

"องค์พระนารายณ์ทรงสุบรรณ" หรือทรงครุฑ เทพที่ช่วยปกป้องคุ้มครอง และประทานโชคลาภ

          ด้านหน้าของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล จะเป็นที่ตั้งของ "พระนารายณ์ทรงสุบรรณ" หรือ "พระนารายณ์ทรงครุฑ" ถือเป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ที่มีความสำคัญอีกพระองค์หนึ่ง เพราะมีหน้าที่คุ้มครองแลดูแลรักษาทั้ง ๓ โลกตามความเชื่อของชาวฮินดู จากคัมภีร์พราหมณ์ กล่าวว่า พระวรกายของพระองค์จะมีสีที่เปลี่ยนไปตามยุค ฉลองพระองค์ดั่งกษัตริย์ มีมงกุฎทอง อาภรณ์สีเหลือง มี ๔ กร ถือ สังข์ จักร ตรี คทา

          พระองค์เปรียบประดุจเทพเจ้าแห่งความเมตตา อำนาจของพระองค์สามารถช่วยขจัดปัดเป่าความชั่วร้ายและสิ่งไม่ดี รักษาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง และปกป้องคุ้มครองผู้บูชา โดยมีความเชื่อว่าใครบูชาท่านแล้วจะได้รับความคุ้มครอง และมีโชคลาภ แต่จะต้องเป็นคนมีสัจจะ รักษาศีล รวมทั้งเจริญภาวนาเป็นที่ตั้ง

          ในส่วนของการสักการะนั้นจะต้อง ใช้ธูป 9 ดอก,เทียน 1 คู่,ดอกดาวเรือง 1 พวง แต่เท่าที่สังเกตดูในวันนั้น จะเห็นว่า มีผู้นำขาหมูมาไหว้ด้วย ซึ่งเราก็ยังหาคำตอบในเรื่องนี้ไม่ได้เช่นกันว่าทำไมถึงมีการนำขาหมูมาไหว้เทพ เนื่องจากเท่าที่เคยทราบว่า การไหว้เทพเจ้านั้น จะใช้ของหวาน ไม่ใช้ของคาว

"ท้าวอัมรินทราธิราชหรือพระอินทร์" เทพเจ้าแห่งความเมตตา

          ด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์พลาซ่า เป็นที่ประทับของ "ท้าวอัมรินทราธิราชหรือพระอินทร์" เทพผู้ผดุงไว้ซึ่งความดี มีพระวรกายสีเขียวหยกเข้มมีพระเนตรพันดวง มี 4 กร แต่ละกรทรงอาวุธที่แตกต่างกันคือ ดาบ หอก ธนู ตราสังข์ โดยที่อาวุธหลักประจำตัวของพระองค์คือ วชิระ หรือสายฟ้า เป็นอาวุธ มี ช้างเอราวัณ เป็นพาหนะ เป็นเทพประจำทิศตะวันออก มีฐานะเป็นพระผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลก ดินฟ้าอากาศและสงคราม รวมถึงเป็นเทพนักสังคมสงเคราะห์ ประทับอยู่วิมานชั้นดาวดึงส์ ยามใดที่มีเรื่องเดือดร้อนขึ้นบนโลกมนุษย์ อาสนะของพระองค์ที่เคยอ่อนนุ่มก็จะแข็งกระด้าง

          ท้าวอัมรินทราธิราช ราชาแห่งสรวงสวรรค์นี้ ชาวบ้านจะรู้จักและคุ้นเคยในนามของ "พระอินทร์" มีฐานะเป็นพระผู้ดูแลทุกข์สุขของมนุษย์โลก ดินฟ้าอากาศและสงคราม และยังเป็นเทพนักสังคมสงเคราะห์

          อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่มีความเชื่อว่า อำนาจของพระองค์นั้น จะช่วยปัดเป่าความชั่วร้าย หรือสิ่งไม่ดีบริเวณนั้น พร้อมทั้งปกป้องรักษาธุรกิจให้เจริญรุ่งเรือง รวมถึงคุ้มครองผู้บูชา ในการสักการะ ใช้ธูป 9 ดอก เทียน 1 คู่ ดอกดาวเรือง 1 พวง

          หลังจากไหว้ท้าวอัมรินทราธิราชเรียบร้อยแล้ว จึงเดินต่อไปยัง "เทวสถานท่านท้าวมหาพรหม" หรือ "พระพรหม" เทพที่ผู้คนนิยมบูชาและนับถือมากที่สุดในย่านราชประสงค์แห่งนี้

"ท้าวมหาพรหม" เทพผู้สร้างโลกและสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย

          ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาบริเวณแยกราชประสงค์แห่งนี้ ก็จะคุ้นเคยกับเทวสถานของ "ท้าวมหาพรหม" เพราะจะเป็นมุมถนนที่มีความคึกคักตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า สาย บ่าย หรือเย็น ดังจะเห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติที่เดินทางมากราบไหว้เพื่อขอพรกันอย่างเนืองแน่น

         ด้วยพระนามว่า "พระพรหม" ที่แปลว่า "ผู้ภาวนา" ชาวฮินดูจึงเชื่อว่า "พระพรหม" เป็นเทพผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย พระพรหมมีกายสีแดง 4 พักตร์ 4 กร ถือ พาน ดอกบัว หม้อน้ำ และ คัมภีร์พระเวท ทรงมีวิมานทิพย์ในพรหมวรินทาในพรหมโลก มีพาหนะเป็นพญาหงส์ชื่อ "วาหน" พระพรหมเกิดมาจากขณะที่พระนารายณ์กำลังบรรทมสินธุ์อยู่กลางเกษียรสมุทรได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้น คือ มีดอกและก้านบัว โผล่ขึ้นจากพระนาภี (สะดือ) หลังดอกบัวขยายกลีบก็ปรากฏพระพรหมภายใน พระพรหมมีมเหสีชื่อ "นางสุรัสวดี" ซึ่งพระนารายณ์ถวายให้ (บางตำราว่าพระพรหมสร้างนางขึ้นมาเอง) พระพรหมเป็นมหาเทพผู้มีจิตใจ มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ในทางพระพุทธศาสนาจึงได้เรียกว่าพรหมวิหาร

          ทั้งนี้ผู้คนส่วนใหญ่ที่เดินทางมาที่เทวสถาน "ท้าวมหาพรหม" ก็เพื่อขอพรในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การงาน ธุรกิจการค้า ขอพรต่าง ๆ ใครที่ขอพรแล้ว ได้รับพรดังที่หวัง ก็จะนิยมมาแก้บนด้วยการจ้างนางรำแก้บน ในส่วนของการสักการะ จะใช้ธูป 16 ดอก(ไหว้ 4 ดอก/1ทิศ),เทียน 4 คู่ และดอกดาวเรือง 4 พวง (รวม 4 ทิศ)

"พระนารายณ์ประทับยืนบนพญาอนันตนาคราช" เทพผู้ดูแลความสงบสุขใน 3 โลก

          จากแยกราชประสงค์ เราก็จะข้ามถนนมายัง "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เพื่อกราบไหว้ "พระนารายณ์ประทับยืนบนพญาอนันตนาคราช" ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ว่า ในสถานที่ราชการแห่งนี้ มีเทวสถานของเทพศักดิ์สิทธิ์ประทับอยู่

          แต่ก่อนที่จะเข้าไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น อย่าลืมแลกบัตรก่อน พร้อมทั้งแจ้งจุดประสงค์ของการเข้ามาในพื้นที่เพื่อความสะดวก

          "พระนารายณ์ประทับยืนบนพญาอนันตนาคราช" หรือพญานาค มีอีกชื่อหนึ่งว่า "หริ" แปลว่าผู้ดูแลแห่งจักรวาลถือเป็นเทพสูงสุด ลักษณะเป็นองค์สีดำ ประดิษฐานอยู่กลางสระน้ำที่รายล้อมด้วยต้นไม้นานาชนิด

          โดย "หริ" ได้แบ่งตนเองออกเป็น 3 คือ พระพรหม มีหน้าที่สร้างและลิขิตสรรพสิ่งทั้งปวงในทั้งสามโลก, พระวิษณุ หรือ พระหริ มีหน้าที่ดูแลทั้งสามโลกให้อยู่ในความเรียบร้อย และสมดุล และ พระศิวะ มีหน้าที่ทำลายสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายทั้งปวงในโลกทั้งสาม

          ที่สำคัญจะมี "อนันตนาคราช" หรือพญานาคจะคอยคิดตามไปทุกหนแห่ง และในช่วงที่โลกมนุษย์สงบสุข จะขดตัวให้เป็นที่ประทับของพระวิษณุอยู่ ณ เกษียรสมุทร  ทั้งนี้ในการสักการะ จะใช้ธูป 9 ดอก,เทียน 1 คู่ และดอกดาวเรือง 1 พวง

          หลังเดินวนจนครบทั้ง 7 เทวสถานแล้ว มีสิ่งหนึ่งที่สรุปได้คือ ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด การกราบไหว้ เพื่อขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยังคงเป็นวิถีของชาวพุทธ ที่คอยมองหาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ...

ข้อมูลและภาพประกอบจาก